อีเมล์ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
แหล่งท่องเที่ยว
มะนาวโห่

ภายในบริเวณวัดแม่ลาดมีต้นไม้ในวรรณคดีชนิดหนึ่ง คือต้นมะนาวโห่ ตอนแรกก็สงสัยใคร่รู้ ว่านี่ต้นกระไรหนอ ลูกไม้ถึงได้สีสดขนาดนี้
เดินวนรอบต้นก็ไม่รู้จึงตัดสินใจถามคุณลุงข้าง  ท่านบอกว่าเป้นต้นไม้ในวรรณคดี  คือ ไม้ผลชนิดหนึ่งชื่อ มะนาวไม่รู้โห่ ค่ะ ท่านผู้ชม
ใครเป็นเป็นคอวรรณคดีไทย 
นิทานไทย คงถึงบางอ้อ ใช่ไหมคะ

ถ้ายังไม่ใช่ก็เอ่อ -_-" เดี๋ยวเล่าให้ฟัง


เคยได้ยินเรื่อง นางสิบสอง หรือ พระรถเมรี กันใช่ไหมคะ

หลังจากนางยักษ์สันทมารควักลูกตานางสิบสองและจับนางสิบสองขังไว้ในถ้ำมืดๆ แล้วส่งไปให้ลูกเลี้ยงชื่อนางเมรีเก็บรักษาที่เมืองยักษ์แล้ว (จากตรงนี้แหละ ทำให้รู้เลยว่า นางเมรีแก่กว่าพระรถเป็นสิบกว่าปี แหะๆ พอจะเข้าใจได้ ว่าเหตุใดพระรถถึงทิ้งนาง แง้วๆ อันนี้มั่วๆ อย่าเชื่อ อิอิ)

นางยักษ์สันทมารก็ปลอมตัวเป็นมเหสีแสนสวยของพระรถสิทธิ์ จนกระทั่ง นางเภา น้องสาวคนสุดท้องในบรรดานางสิบสอง คลอดลูกออกมา แล้วแอบเลี้ยงไว้ (พี่ๆ อีกสิบเอ็ดคนคลอดลูกแล้วลูกตาย พากันฉีกกินเนื้อลูก แหงะ น่ากลัว)

จนพระรถเสนผู้เป็นลูกนั้นเติบใหญ่ ออกมาจับไก่เทวดา เอามาเลี้ยงไว้แล้วไปท้าพนันตีไก่กับชาวเมืองพระรถจนชื่อเสียงโด่งดังไกล จนในที่สุดเรื่องไปถึงหูพระรถสิทธิ์ ก็ให้รับเข้าวังมาเลี้ยงดู

นางยักษ์สันทมารออกอาการเซ็งจังหู้ ที่อยู่ดีๆ ก็ต้องมาเลี้ยงลูกของคนที่นางเกลียด (จริงๆ นางสิบสองก็เป็นลูกเลี้ยงของนางสันทมารมาก่อนเหมือนกัน) ก็เลยออกอุบายเป่าหูพระรถสิทธิ์ว่าตัวเองป่วย ต้องการยารักษาด่วน โดยให้ใช้พระรถเสนไปที่เมืองยักษ์ของนาง เพื่อไปเอาผงวิเศษ และยาซึ่งเป็นสมุนไพรสองชนิดคือ มะงั่วไม่รู้หาว (ไม่ใช่มะม่วงนะ อย่ามั่ว) และ มะนาวไม่รู้โห่ (บางสำนวนว่า มะงั่วรู้หาว มะนาวรู้โห่ บ้างก็ว่า มะงั่วหาว มะนาวโห่ แต่ทั้งหมดก็ต้นเดียวกันนี้แล) มาให้ได้ แล้วแอบเขียนสาร ถึงนางเมรีลูกรักว่า ถ้าพระรถไปถึงเมืองให้ฆ่ากินเสีย ไม่ว่าจะไปถึงกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม


แล้วเรื่องก็ดำเนินไปอย่างที่เรารู้ๆ กัน คือ พระรถเสน ต้องเดินทางไป ระหว่างทางก็ไปขอนอนพักที่อาศรมพระฤๅษี แล้วพระฤๅษีก็จัดการแปลงสารเป็นว่า นางสันทมารส่งพระรถให้มาแต่งงานกับนางเมรีผู้สูงวัยแต่ไร้คู่ ซะงั้น (บางฉบับว่าพระรถเดินทางตอนอายุ 13 เอง ตอนนั้นนางเมรีอายุ 21 ละ อิอิ ฉบับนครศรีธรรมราชนะคะ ยังมีความสับสนเรื่องตัวเลขอายุอยู่เยอะทีเดียว)


และสุดท้าย... ไม่เล่าแล้วค่ะ ไปหาอ่านเรื่องนี้เอาเองนะคะ สนุกสนานบานใจทีเดียวเชียว

มะนาวโห่

Image
ชื่อ หนามแดง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Carissa carandas Linn
วงศ์ Apocynaceae
ชื่อสามัญ Karanda, Carunda, Christ's Thorn
ชื่ออื่นๆ มะนาวไม่รู้โห่ (ภาคกลาง) มะนาวโห่ (ภาคใต้) หนามขี้แฮด (เชียงใหม่) หนามแดง (กรุงเทพฯ)
สถานที่
Image  Image 
Image  Image 
   
 Image Image 
 Image Image 
 Image Image 
 
ข้อมูลทั่วไปและประวัติ นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ไม้โชว์ทรงพุ่ม มีดอกสวยงาม มีกลิ่นหอม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ หนามแดงเป็นไม้พุ่มสูง 2-3 เมตร ทรงพุ่มกลม แตกกิ่งจำนวนมาก ลำต้นและกิ่งมีหนามแหลมยาว 2-4 ซม. ทุกส่วนมียางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามใบรูปไข่กลับ โคนใบและปลายใบมนกลม กว้าง 3-4 ซม. ยาว 5-7 ซม. ดอกออกเป็นช่อสีขาวอมชมพู ออกเป็นช่อสั้น ๆที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนกลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอดยาว 1.5-2 ซม. สีชมพู ปลายดอกแยกเป็น 5 กลีบ บิดเวียนเล็กน้อย เมื่อดอกบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 ซม. มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตลอดวัน ออกดอกตลอดปี แต่มีดอกดกในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - เมษายน
นิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิด แอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลียเขตร้อน พบขึ้นตามป่าเบญจพรรณ
การขยายพันธุ์

 

1.การเพาะเมล็ด
2.การตอนกิ่ง

การปลูกและการดูแลรักษา 1.หนามแดงเป็นไม้ดอกไม้ประดับที่ทนทาน แล้งง่าย เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง
2.ดินควรเป็นดินร่วน เก็บความชื้นได้ดี
ประโยชน์ ตำรายาไทยใช้ แก่น บำรุงไขมัน เหมาะสำหรับคนผอม บำรุงธาตุ ใบสด ต้มน้ำดื่ม แก้ท้องร่วง แก้ปวดหู แก้ไข้ แก้เจ็บปากและคอ ผลสุกและดิบ รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน แก้ท้องเสีย รากสด ต้มน้ำดื่ม ขับพยาธิ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ตำให้ละเอียดผสมกับเหล้า ทาหรือพอกรักษาบาดแผลและแก้คัน รากมีสารกลุ่ม cardiac glycoside ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้ทำงานมากขึ้น จึงควรระวังเมือก